ทีนี้หันมาพูดกันถึงเรื่องหมอดูกับโหรเสียก่อน ว่าท่านจำกัดวงไว้ว่าแค่ไหนเป็นขั้นหมอดู และแค่ไหนขึ้นเป็นโหร อันวิชชาหมอดูนั้นเป็นวิชชาเพียงแค่การทำนายทายทัก ซึ่งจัดว่าเป็นบันไดขึ้นต้นของวิชชาโหราศาสตร์ อันพวกโหรใช้เป็นหลักการณ์สำหรับพยากรณ์ มีท่วงทำนองที่มาคล้ายคลึงกัน จะแตกต่างกันก็อยู่ที่หยาบหรือละเอียด ง่ายหรือยากคือผิวเผินหรือลึกซึ้งกว่ากันเท่านั้น เพราะทั้งหมอดูและโหรต่างก็ใช้ดวงดาวนพเคราะห์เป็นเครื่องสำหรับวินิจฉัยตัดสิน เป็นเพียงว่าพวกหมอดูนั้นใช้กันเพียงแบบจำลองเท่านั้น ส่วนพวกโหรนั้นจะต้องค้นคว้าเล่าเรียนจากของจริงทำเดียว ความง่ายยากจึงแตกต่างกันมาก แต่ถ้าหากพวกหมอดูที่พยายามเล่าเรียนค้นคว้าจนจับจุดความจริงได้ ก็สามารถที่จะทำนายทายทักได้โดยแม่นยำไม่ผิดพลาด
หลักวิชชาที่พวกหมอดูใช้ศึกษากัน ตำราภาคพื้นที่สำคัญก็ได้แก่ตำราเลข ๗ ตัว โดยอาศัยวัน, เดือน, ปี, และยามเวลาเกิดโดยเทียบเข้ากับหลักการของดาวเคราะห์ เป็นมูลฐานสำหรับทำนายทายทัก ส่วนวิชชาโหรนั้นจำเป็นจะต้องเรียนรู้มาจากของจริง มีการกำหนดผืนแผ่นฟ้าเป็นจักรราศี และแบ่งซอยออกเป็นราศีทั้ง ๑๒ แบ่งเป็นนักษัตร์ทั้ง ๒๗ ตรียางค์ ๓๖ และนวางค์ ๑๐๘ เมื่อจะผูกดวงพยากรณ์ให้กับผู้ใด ก็จะต้องตรวจสอบดูให้รู้ว่า ดวงดาวนพเคราะห์ที่ใช้เป็นเครื่องมือสำหรับพยากรณ์นั้น สถิตในราศีใด อยู่ในขณะที่แปรวิถีจักรโคจรเช่นใด เกาะดาวฤกษ์, ตรียางค์, นวางค์, ใด ดังนี้เป็นต้น ตามที่กล่าวมาโดยย่อ ๆ นี้จะเป็นได้ว่า ทั้งงหมอดูและโหรต่างก็อาศัยดาวเคราะห์เป็นมูลเหตุ ที่จะใช้ทำนายทายทักหรือพยากรณ์กันทั้ง ๒ ประการต่างแต่ว่าตื้นหรือลึกกว่ากันเท่านั้น
สำหรับหลักวิชชาที่ใช้ในประเภทหมอดู นอกจากตำรา ๗ ตัวที่เป็นพื้นฐานแล้ว ยังมีตำรามหาทักษาพยากรณ์อีกตำราหนึ่ง ซึ่งเป็นรากเหง้าที่สำคัญยิ่ง พวกหมอดูหรือโหรในหลักวิชชาโหราศาสตร์ระบบนิรายะนะ อันได้แก่วิชชาโหรภารตะ พม่า มอญ ไทย ฯลฯ เหล่านี้ จำเป็นต้องใช้ตำรามหาทักษา เป็นหัวใจใหญ่ในการทำนายพยากรณ์ จะมีแตกต่างกันไปบ้างตามรสนิยม ที่จะดัดแปลงไปแต่ละชาติ แต่รากเหง้าใหญ่ก็คงมีที่มาในทำนองเดียวกันทั้งสิ้น ต่อไปนี้จะได้กล่าวเฉพาะแต่ตำรามหาทักษาที่นิยมใช้พยากรณ์อยู่ในประเทศไทย และส่วนมากใช้เป็นตำราทำนายทายทักคู่กับตำราเลข ๗ ตัว ครั้งเมื่อเรียนวิชชาประเภทหมอดูชำนิชำนาญดีแล้ว เลื่อนขั้นเข้าศึกษาวิชชาโหราศาสตร์ ก็ได้นำเอาตำราทักษาพยากรณ์เข้าไปประกอบด้วย แต่มิได้ดัดแปลงแก้ไข คงใช้กับวิชชาโหราศาสตร์ ประดุจเดียวกับที่ใช้กับวิชชาหมอดูเลข ๗ ตัวนั่นเอง และหลักตำราโหรโบราณแทบทุกคัมภีร์ มักจะนำหลักเกณฑ์ในวิชชามหาทักษาไปกล่าวระคนกับหลักเกณฑ์ในวิชชาโหราศาสตร์ จนกระทั่งเกือบจะจับใจความสำคัญไม่ได้ว่า อันใดเป็นหลักเกณฑ์ของมหาทักษา และอันใดเป็นหลักเกณฑ์ของวิชชาโหราศาสตร์ แท้จริงนั้นหลักเกณฑ์ที่กล่าวในตำรามหาทักษา ส่วนใหญ่บัญญัติขึ้นอย่างง่าย ๆ เพื่อใช้กับวิชชาพื้นฐานขั้นต้นคือวิชชาเลข ๗ ตัว มีท่วงทำนองคล้ายคลึงกับที่กล่าวในวิชชาโหราศาสตร์
ที่มาจาก หนังสือ โหราศาสตร์ปริทรรศน์ ภาค ๑ ฉบับมาตรฐาน ของอาจารย์เทพย์ สาริกบุตร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น